“ลิปสกี้-ลาฮิรี” ลุ้นชิงบังลังก์มือหนึ่งเอเชียนทัวร์ใน ไทยแลนด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ

[g_Junt]

“ลิปสกี้-ลาฮิรี” ลุ้นชิงบังลังก์มือหนึ่งเอเชียนทัวร์ใน ไทยแลนด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ


กรุงเทพฯ 9 ธันวาคม 2557 – การลุ้นตำแหน่งนักกอล์ฟทำเงินรางวัลสูงสุดหรือมือหนึ่งของเอเชียนทัวร์ฤดูกาลนี้ อาจต้องตัดสินกันในการแข่งขัน “ไทยแลนด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ 2014” ซึ่งจะเปิดฉากดวลวงสวิงในวันพฤหัสบดีนี้ ที่สนาม อมตะ สปริง คันทรีคลับ จังหวัดชลบุรี





โดยขณะนี้ เดวิด ลิปสกี้ โปรกอล์ฟชาวอเมริกัน รั้งจ่าฝูงของตารางเงินรางวัลสะสมเอเชียนทัวร์ด้วยจำนวนเงิน 707,585 เหรียญสหรัฐ นำหน้าอันดับสอง อนีร์บาน ลาฮิรี จากอินเดียอยู่กว่า 133,000 เหรียญสหรัฐ ขณะที่เหลือการแข่งขันอีก 2 รายการ





หากโชว์ฟอร์มได้ดีในการแข่งขัน “ไทยแลนด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ 2014” ที่มีเงินรางวัลให้ช่วงชิงรวม 1 ล้านเหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 32 ล้านบาท) ซึ่งมีโปรดังระดับโลกอย่าง เซอร์จิโอ การ์เซีย แชมป์เก่า, บับบา วัตสัน แชมป์มาสเตอร์ส 2 สมัย และมาร์ติน คายเมอร์ แชมป์ยูเอส โอเพ่น คนล่าสุดร่วมชิงชัยด้วย น่าจะทำให้ลิปสกี้ ครองตำแหน่งนักกอล์ฟทำเงินสูงสุดเป็นครั้งแรก แต่ลาฮิรี่ ก็กำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์มที่สุดและมักทำผลงานดีในศึก ไทยแลนด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ





ลาฮิรี โปรวัย 27 ปี ซึ่งปัจจุบันรั้งอันดับ 70 ของโลก ยอมรับว่าโอกาสแซงเข้าป้ายคว้าตำแหน่งมือ 1 เอเชียนทัวร์ค่อนข้างยากแต่ก็จะสู้เต็มที่ เขากล่าวว่า “ถือเป็นเรื่องยากที่จะแซงได้เพราะตามหลังค่อนข้างห่างมาก แต่ผมก็โชว์ฟอร์มได้ดีมาตลอดทั้งฤดูกาล จึงไม่มีเหตุผลที่ผมจะไม่สามารถทำผลงานได้ดีอีกครั้งในรายการนี้”





ทั้งนี้ในการแข่งขัน ไทยแลนด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ เมื่อปีที่แล้ว ลาฮิรีจบอันดับ 4 ร่วม และมีผลงานน่าประทับใจในฤดูกาลนี้ รวมถึงการคว้าแชมป์เอเชียนทัวร์ 2 รายการคือ อินโดนีเซีย มาสเตอร์ส และเวเนเชียน มาเก๊า โอเพ่น ตามลำดับ และหวังจะซิวแชมป์ที่สนามอมตะ สปริง พร้อมเช็คเงินสด 180,000 เหรียญสหรัฐในสัปดาห์นี้





"ผมตั้งเป้าจะทำผลงานให้ดีกว่าครั้งก่อน ปีนี้ถือเป็นปีที่ยอดเยี่ยมสำหรับผมทั้งในและนอกสนาม และผมอยากปิดฉากปีได้อย่างสวยหรู” โปรกอล์ฟมือ 70 ของโลกกล่าวเสริม โดยเมื่อเดือนที่แล้ว ลาฮิรีเพิ่งคว้าทัวร์การ์ดผ่านเข้าไปเล่นยูโรเปียนทัวร์แบบเต็มตัวครั้งแรก หลังทำผลงานได้ดีในการแข่งขันรอบคัดเลือก หรือควอลิฟายอิง สคูล ที่ดวลกัน 6 รอบ





ทางด้าน ลิปสกี้ ทำเงินรวมนำห่างคู่แข่งเพิ่มขึ้นไปอีก หลังเข้าป้ายอันดับ 6 ในการแข่งขันอินโดนีเซีย โอเพ่น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และเจ้าตัวก็พกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยมก่อนเข้าร่วมชิงชัยที่ประเทศไทย โดยจั้วกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าผมทำเงินทิ้งห่างคู่แข่งออกไปอีก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก ถือว่าทำสำเร็จไปก้าวหนึ่งแล้ว และก้าวต่อไปคือ ไทยแลนด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ ต้องมาลุ้นกันว่าผมจะสามารถทำอะไรได้บ้าง”





ทั้งนี้โปรกอล์ฟชาวอเมริกันดวลเพลย์ออฟชนะแกรม สตอร์ม ในศึกโอเมก้า ยูโรเปียน มาสเตอร์ส รายการที่จัดร่วมกันระหว่างยูโรเปียนทัวร์ และเอเชียนทัวร์ ที่สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งทำให้เขารับเงินรางวัลจากการคว้าแชมป์รายการนี้สูงถึง 500,000 เหรียญสหรัฐเลยทีเดียว





ด้าน พรหม มีสวัสดิ์ โปรหนุ่มไทย ซึ่งปัจจุบันรั้งอันดับ 3 ของตารางวัลทำเงินรางวัลสะสมเอเชียนทัวร์ ตามหลังลิปสกี้ ห่างราว 180,000 เหรียญสหรัฐ และตามหลังลาฮิรี ประมาณ 48,000 เหรียญสหรัฐ ก็ยังไม่หมดลุ้นเสียทีเดียว แต่พรหมต้องทำผลงานได้ดีมากในการแข่งขันไทยแลนด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ และรายการดูไบ โอเพ่น ปิดท้ายฤดูกาล รวมทั้งลุ้นให้คู่แข่งทั้งสองคนฟอร์มสะดุดไม่สามารถเก็บเงินรางวัลเพิ่ม ซึ่งดูจากสถานการณ์ตอนนี้ ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้เลย





สำหรับการแข่งขันไทยแลนด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พร้อมเงินรางวัลรวม 1 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 32 ล้านบาท) แข่งขันระหว่างวันที่ 11-14 ธันวาคมนี้ นอกจากเป็นรายการก่อนทัวร์นาเมนต์สุดท้ายในโปรแกรมเอเชียน ทัวร์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการลุ้นอันดับทำเงินรางวัลสะสม หรือออร์เดอร์ ออฟ เมอริต รายการนี้ยังได้รับการบรรจุให้เป็นหนึ่งใน ดิ โอเพ่น ควอลิฟายอิง ซีรีส์ เพื่อชิงสิทธิ์เข้าไปเล่นในรายการเมเจอร์ ดิ โอเพ่น แชมเปี้ยนชิพ ที่สนามเซนต์ แอนดรูว์ส ในปีหน้า โดยมีโควตาให้ 4 ที่จากรายการนี้