![]() |
ฟุตบอล (Football) หรือ ซอคเก้อร์ (Soccer) เป็นกีฬาที่มีผู้สนใจที่จะชมการแข่งขันและเข้าร่วมเล่นมากที่สุดในโลกชนชาติใดเป็นผู้กำเนิดกีฬาชนิดนี้อย่างแท้จริงนั้นไม่อาจจะยืนยันได้แน่นอน เพราะแต่ละชนชาติต่างยืนยันว่าเกิดจากประเทศของตน แต่ในประเทศฝรั่งเศสและประเทศอิตาลี ได้มีการละเล่นชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "ซูเลอ" (Soule) หรือจิโอโค เดล คาซิโอ (Gioco Del Calcio) มีลักษณะการเล่นที่คล้ายคลึงกับกีฬาฟุตบอลในปัจจุบันทั้งสองประเทศอาจจะถกเถียงกันว่ากีฬาฟุตบอลถือกำเนิดจากประเทศของตน อันเป็นการหาข้อยุติไม่ได้เพราะขาดหลักฐานยืนยันอย่างแท้จริง ดังนั้น ประวัติของกีฬาฟุตบอลที่มีหลักฐานที่แท้จริงสามารถจะอ้างอิงได้ เพราะการเล่นที่มีกติกาการแข่งขันที่แน่นอน คือประเทศอังกฤษเพราะประเทศอังกฤษตั้งสมาคมฟุตบอลในปี พ.ศ. 2406 และฟุตบอลอาชีพของอังกฤษเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2431 |
ในการเเข่งฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก ในรอบคัดเลือก เป็นการแข่งขันที่จัดขึ้นโดยสมาพันธ์ย่อยทั้ง 6 สมาพันธ์ของฟีฟ่า เพื่อตัดสินหา 31 จาก 32 ทีมที่จะลงเล่นใน ฟุตบอลโลก ร่วมกับกาตาร์ซึ่งผ่านการเข้ารอบโดยอัตโนมัติในฐานะเจ้าภาพ โดยมีทีมจากชาติสมาชิกฟีฟ่าทั้งหมด 206 ทีมลงแข่งขัน เป็นการเเข่งขันฟุตบอลที่รายงานใหญ่ที่สุดของการเเข่งขันฟุตบอล ซึ่งการเเข่งเเต่ละ 4 ปีก็จะมีเจ้าภาพของฟุตบอลบอลโลกในปีนั่น ซึ่งในปีนี้เป็นฟุตบอลโลกปี 2022 ซึ่งประเทศที่่เป็นเจ้าภาพปีนี้นั้นก็คือ ประเทศกาตาร์ ประกาตาร์ได้สร้างสนามฟุตบอลที่สวยอลังการเเละเป็น สนามฟุตบอลหลัก ที่จะใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ จะทั้งหมด 8 สนาม เเละนักฟุตเเต่ละคนมีตำเเหน่งผู้เล่นมีทั้งหมด 11 คน ผู้รักษาประตู กองหลัง กองกลางเเละกองหน้า เราไปดูกันว่ามีสนามกีฬาฟุตบอลปี 2022 มีกี่สนาม
สนามที่ใช่เเข่งฟุตบอลโลกมีทั้งหมด 8 สนาม
ความจุ: 80,000 ที่นั่ง
จำนวนเกมที่ใช้: 10 เกม รวมพิธีเปิดและรอบชิงชนะเลิศ
สนามลูเซล ตั้งอยู่ในเมืองลูเซล ห่างจาก 'โดฮา' เมืองหลวงของกาตาร์ประมาณ 20 กิโลเมตร โดยเป็นสนามหลักของศึกฟุตบอลโลกในครั้งนี้ที่เจ้าภาพเตรียมไว้นำเสนอแฟนบอลทั่วโลก ทั้งเป็นสนามสำหรับพิธีเปิดการแข่งขัน และใช้แข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ตัวสนามถูกออกแบบโดย Foster + Partner บริษัทสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมชื่อดังในอังกฤษ ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากแสงและเงาที่เกิดจากตะเกียงไฟสไตล์อาหรับ เมื่อมองจากด้านบนจะเห็นทั้งส่วนโค้งและลาดเอียง ที่ทำให้เกิดรูปทรงหม้อต้มขนาดใหญ่
ทางผู้จัดการแข่งขันบอกว่าจะช่วยสร้างบรรยากาศการแข่งขันที่ยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตามเมื่อเสร็จศึกฟุตบอลโลก ที่นั่งส่วนใหญ่จะถูกถอดออกไปบริจาคให้กับประเทศกำลังพัฒนา เนื่องจากเมืองลูเซลไม่ได้ต้องการใช้สนามฟุตบอล
ความจุ: 40,000 ที่นั่ง
จำนวนเกมที่ใช้: 7 เกม
สนามอัล จานอบ หรือชื่อเดิม สนามอัลวาก์ราห์ (Al Wakrah) ได้แรงบันดาลใจจากการล่องเรือใบที่เรียกว่า Dhow ตามแนวชายฝั่งที่มีมายาวนานในกาตาร์ ออกแบบโดย เดม ซาฮา ฮาดิด (Dame Zaha Hadid) สถาปนิกชาวอังกฤษ-อิรัก อย่างไรก็ตามหลังภาพร่างของสนามอัล จานอบ ถูกเผยแพร่ออกมาครั้งแรกกลับถูกวิจารณ์ว่าดูเหมือนอวัยวะเพศหญิงมากกว่าเรือใบ
ตัวสนามถูกออกแบบให้มีความทันสมัยโดยมีหลังคาเปิด-ปิด พร้อมระบบทำความเย็น เพื่อให้สามารถใช้จัดการแข่งขันได้ตลอดทั้งปี อย่างไรก็ตามหลังจบทัวร์นาเมนต์ ที่นั่งในสนามจำนวน 2 หมื่นที่นั่ง จะถูกนำไปบริจาคเช่นเดียวกันกับสนามลูเซล
ความจุ: 60,000 ที่นั่ง
จำนวนเกมที่ใช้: 8 เกม
สนามอัล บายต์ ตั้งอยู่ในเมืองอัล กห์อร์ (Al Khor) ห่างจากเมืองโดฮาไปทางเหนือประมาณ 50 กิโลเมตร โดยถูกใช้จัดการแข่งขันตั้งแต่รอบแรกไปจนถึงรอบรองชนะเลิศ ออกแบบโดย ดาร์ อัล-ฮานดาซาห์ (Dar Al-Handasah) ที่ต้องการให้ตัวสนามแสดงถึงการต้อนรับอย่างมิตรไมตรี ด้วยโครงสร้างสนามที่ดูเหมือนเต็นต์แบบดั้งเดิมของอาหรับที่เรียกว่า บาย อัล ซา’อาร์ (Bayt al Sha’ar)
สนามอัล บายต์ มาพร้อมหลังคาเปิด-ปิด เพื่อรับมือกับอุณหภูมิที่อาจสูงถึง 30 องศาในเดือนพฤศจิกายน และเนื่องจากเป็นสนามที่อยู่ไกลจากเมืองโดฮามากที่สุด ทางเจ้าภาพจึงเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งโรงแรมและแหล่งชอปปิ้งไว้สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ต้องการเดินทางไปยังเมืองหลวงของกาตาร์
ความจุ: 40,000 ที่นั่ง
จำนวนเกมที่ใช้: 7 เกม
สนามอาห์มัด บิน อาลี ตั้งอยู่ในเมืองอัล ราย์ยาน (Al Rayyan) ถูกสร้างขึ้นใหม่บนสนามแห่งเดิม โดยเป็นสังเวียนฟาดแข้งไปจนถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ได้รับการออกแบบเพื่อสะท้อนถึงวัฒนธรรมของประเทศกาตาร์ ด้านหน้าของสนามมีลวดลายอันซับซ้อนเพื่อแสดงถึงเรื่องราวของประเทศ ตั้งแต่สัตว์ป่าพื้นเมืองไปจนถึงประวัติศาสตร์ด้านการค้าขาย และเนื่องจากสนามตั้งอยู่ใกล้ทะเลทราย จึงมีการตกแต่งพื้นที่ไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยว และมีร้านค้าขายของที่ระลึกบริเวณนอกสนาม
ความจุ: 40,000 ที่นั่ง
จำนวนเกมที่ใช้: 8 เกม
สนามเอดูเคชัน ซิตี้ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของกาตาร์ ฟาวเดชัน อยู่ห่างจากศูนย์กลางเมืองโดฮาเพียง 6 ไมล์ สนามถูกออกแบบให้มีรูปทรงเหมือนเพชร โดยจะมีความระยิบระยับทั้งในตอนกลางวันและตอนกลางคืน จึงมีอีกชื่อเรียกว่า 'เพชรแห่งทะเลทราย'
สนามแห่งนี้เคยถูกใช้เป็นสังเวียนฟาดแข้งรายการฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2021 นัดชิงชนะเลิศ ระหว่างบาเยิร์น มิวนิค และ ติเกรส มาแล้ว โดยหลังจากจบศึกฟุตบอลโลก 2022 สนามเอดูเคชัน ซิตี้ จะถูกใช้เป็นสนามเหย้าสำหรับทีมฟุตบอลหญิงกาตาร์ในการแข่งขันระดับประเทศ
อัล ทูมามา สเตเดี้ยม
ความจุ: 40,000 ที่นั่ง
จำนวนเกมที่ใช้: 8 เกม
สนามฟุตบอลแห่งนี้ถูกออกแบบโดย Arab Engineering Bureau โดยได้แรงบันดาลใจจาก 'Gahfiya' หมวกอาหรับสำหรับผู้ชาย และเป็นสนามแข่งขันฟุตบอลโลกแห่งแรกที่ออกแบบโดยสถาปนิกชาวกาตาร์
ไม่เพียงแต่จะถูกใช้เป็นสังเวียนฟาดแข้ง บริเวณภายในพื้นที่ของสนามยังมีโรงแรมและมัสยิดไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย อย่างไรก็ตามหลังการแข่งขันจบลง เก้าอี้ในสนามอัล ธูมามา จะถูกถอดออกจำนวนครึ่งหนึ่งเพื่อนำไปบริจาคให้กับประเทศกำลังพัฒนา
ความจุ: 40,000 ที่นั่ง
จำนวนเกมที่ใช้: 7 เกม
สนามแห่งนี้ถูกออกแบบโดย FIA Fenwick Iribarren Architecs สำหรับศึกฟุตบอลโลก 2022 เพียงครั้งเดียว ด้วยการใช้ตู้คอนเทนเนอร์จำนวน 974 ตู้ รวมทั้งวัสดุอื่นๆ ที่สามารถรื้อถอนได้ง่ายหลังจบการแข่งขัน ซึ่งเป็นที่มาของชื่อสนาม
แม้จะเป็นสนามฟุตบอลชั่วคราว แต่ก็มีจุดเด่นในด้านความสวยงามของพื้นที่โดยรอบ เพราะภายนอกของสนามสามารถมองเห็น Doha Corniche และ West Bay ซึ่งเป็นพื้นที่ริมชายฝั่ง
ความจุ: 45,416 ที่นั่ง
จำนวนเกมที่ใช้: 8 เกม
สนามฟุตบอลเพียงแห่งเดียวที่ถูกสร้างขึ้นก่อนจะมีการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 โดยเป็นสนามกีฬาแห่งชาติของกาตาร์ที่สร้างเมื่อปี 1976 และเคยผ่านการจัดการแข่งขันกีฬาระดับชาติมาแล้วหลายรายการทั้งเอเชียน เกมส์, กัล์ฟ คัพ, เอเอฟซี เอเชียนคัพ รวมทั้งการแข่งขันกรีฑา ไอเอเอเอฟ เวิลด์ แอธเลติก แชมเปียนชิพ 2019
นอกจากนี้ ยังเป็นสนามนัดกระชับมิตรระหว่างอังกฤษกับบราซิลเมื่อปี 2009 รวมถึง ลิเวอร์พูล ที่เคยมาคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ส่วนรายการล่าสุดที่ใช้สนามแห่งนี้คือ ฟุตบอลอีมีร์ คัพ (Emir Cup) เมื่อปีท
สรุปได้ว่าเราสามารถรับรู้เกี่ยวกับสนามฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกที่ใช้เเข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ว่าทั้งหมด 8 สนาม มีการพูดถึงรายละเอียดการสร้างสนามฟุตบอลโลก 2022 ว่าใครเป็นคนสร้างมีสนามทั้งหมด 8 สนามว่ามีความจุของผู้เข้าชมการเเข่งเเละมีรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนที่ใช้ทั้งหมดใช้เเข่งกี่เกมของสนามฟุตบอลโลกปี 2022 ตำเเหน่งกีฬาฟุตบอล ตัวเเทนทีมชาติพยายามเป็นเเชมป์รายงานนี้ข้อมูลที่นำเสนอหวังว่าจะเป็นข้อมูลเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับผู้ที่สนใจหากต้องการหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ใน Google Chorme เเละ Internet Explore
อ้างอิง
ส่อง 8 สังเวียนฟาดเเข้งศึกฟุตบอลโลก 2022 สนามฟุตบอลที่เเข่งขันในฟุตบอลโลกปี 2022. [ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก https://www.gqthailand.com/lifestyle/article/qatar-2022-guide-world-cups-eight-stadiums
สนามฟุตบอลที่เเข่งขันในฟุตบอลโลกปี 2022.สนามฟุตบอลที่เเข่งขันในฟุตบอลโลกปี 2022.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก https://thestandard.co/world-cup-stadium/
อลังการดาวล้านดวง!! ส่อง 8 สนามฟาดแข้ง.ศึกฟุตบอลโลก กาตาร์ 2022 สนามฟุตบอลที่เเข่งขันในฟุตบอลโลกปี 2022. [ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก https://sport.trueid.net/detail/lE9x2x85W8eo
ใน footballหนึ่งทีมมีผู้เล่น 11 คน เป็นมี ผู้รักษาประตู1 คน และผู้เล่นตำแหน่งอื่นอีก 10 คน ซึ่งประกอบด้วยผู้ที่ทำหน้าที่ป้องกัน ( กองหลัง) ผู้อยู่แดนกลาง (กองกลาง) และผู้บุก (กองหน้า) แล้วแต่ระบบแผนที่ใช้ โดยตำแหน่งเหล่านั้นจะบ่งบอกถึงหน้าที่และพื้นที่ในการเล่นของตำแหน่งนั้น
โดยตอนแรกจะมีแค่ตำแหน่งกองหน้า , ฮาล์ฟแบ็ก และทรีควอเตอร์แบ็ก ช่วงแรกที่มีชื่ออย่างนี้เพราะว่า สมัยนั้นเป็นช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ระบบ 2–3–5 เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง การป้องกันจะมีฟุลแบ็กที่รู้จักกันในชื่อกองหลังฝั่งซ้ายและกองหลังฝั่งขวา แดนกลางจะมีเลฟต์ฮาล์ฟ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟและไรต์ฮาล์ฟ และในแนวบุกจะเป็นเอาต์ไซด์เลฟต์ อินไซด์เลฟต์ , กองหน้าตรงกลาง , อินไซด์ไรต์ และเอาต์ไซด์ไรต์ หลังจากนั้นรูปแบบระบบก็พัฒนาไปจนมีชื่อตำแหน่งมากมาย อย่างเมื่อต้นคริสต์ทศวรรษ 1970 คำว่า "ฮาล์ฟแบ็ก" ได้เปลี่ยนมาใช้คำว่า "กองกลาง" กับตำแหน่งที่เล่นในแดนกลางทั้งกลางสนามและริมเส้น กองกลางตัวกลางได้ถูกพัฒนาขึ้นอีกกลายเป็นกองกลางตัวบุกและกองกลางตัวรับ
ในเกมสมัยใหม่ ตำแหน่งในฟุตบอลได้กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดเหมือนรักบี้หรืออเมริกันฟุตบอล ถึงอย่างนั้นนักเตะส่วนใหญ่มักเล่นในตำแหน่งเดิมตลอดการค้าแข้งของพวกเขา เพราะในแต่ล่ะตำแหน่งนั้นใช้ทักษะและความสามารถทางร่างกายไม่เหมือนกัน แต่ก็มีนักฟุตบอลบางพวกที่เล่นได้หลายตำแหน่ง ซึ่งถึงเรียกว่า "นักเตะสารพัดประโยชน์"
ตำเเหน่งของการเล่นฟุตบอล 4 ตำเเหน่งหลัก
1. ผู้รักษาประตู (goalkeeper) ผู้รักษาประตู
ผู้รักษาประตู (goalkeeper) เป็นตำแหน่งที่ป้องกันมากที่สุดในบรรดาหลายตำแหน่ง หน้าที่หลักก็คือการไม่ให้อีกทีมได้แต้มโดยการรับ การปัด หรือการชกบอลจากการยิง การโหม่ง หรือจากลูกที่ไขว้เข้ามา ตำแหน่งนี้ไม่เหมือนตำแหน่งอื่นในทีมตรงที่ส่วนใหญ่ตำแหน่งนี้มักใช้เวลาอยู่บริเวณกรอบเขตโทษ ผลคือทำให้ผู้รักษาประตูเห็นตำแหน่งที่ดีของสนามหรือจากลูกตั้งเตะ ผู้รักษาประตูเป็นผู้เล่นคนเดียวที่สามารถใช้มือกับลูกฟุตบอลได้ แต่ใช้ได้ในกรอบเขตโทษตัวเองเท่านั้น ตำแหน่งผู้รักษาประตูนี้ถือเป็นตำแหน่งที่สำคัญและยากในการป้องกันอีกด้วย
2.กองหลัง (Defender)
กองหลัง (defender) จะอยู่ด้านหลังของกองกลาง และหน้าที่หลักของพวกเขาก็คือสนับสนุนทีมและป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายทำประตูได้ ปกติพวกเขาจะอยู่เพียงครึ่งสนามในฝั่งพวกเขาเพื่อป้องกัน กองหลังตัวสูงจะไปอยู่แดนหน้า บริเวณจุดโทษของอีกฝ่ายเมื่อมีลูกเตะมุม หรือลูกฟรีคิก เพื่อเขาจะโหม่งเข้าประตูอีกฝ่ายได้
3.กองกลาง (Midfielder)
กองกลาง (midfielder) เดิมทีเรียกว่าฮาล์ฟแบ็ก ตำแหน่งนี้จะเล่นอยู่ระหว่างศูนย์หน้าและกองหลัง หน้าที่หลักของตำแหน่งนี้คือครองบอล และรับบอลจากกองหลัง แล้วขึ้นไปส่งให้กองหน้า พร้อมกับไล่บอลจากผู้เล่นอีกฝ่าย ส่วนใหญ่ในทีมต้องมีกองกลางตัวกลาง (central midfielder) อย่างน้อยหนึ่งคน เพื่อหยุดเกมบุกของอีกฝ่าย นอกจากนั้นก็มีการทำประตู ไม่ก็ขึ้นไปบุกและลงมาตั้งรับตามหน้าที่ที่ได้รับ กองกลางนั้นต้องเล่นเกือบทั่วสนาม เมื่อถึงคราวรับ พวกเขาจะลงมาช่วยตั้งรับ เมื่อจะบุกก็ไปช่วยกองหน้าในการบุก พวกเขาส่วนใหญ่จะเป็นคนที่เริ่มเล่นในจังหวะการบุกของทีม A slot casino is where the excitement of spinning the reels. Slots offer a plethora of slot games, each with unique themes and potential rewards.
4.กองหน้า (Forward, Striker)
กองหน้า (forward, striker) เป็นตำแหน่งของผู้เล่นฟุตบอลที่เล่นอยู่บริเวณหน้าประตูอีกฝ่าย หน้าที่หลักของกองหน้าก็คือทำประตู หรือสร้างโอกาสให้ผู้เล่นอื่นทำประตู หน้าที่ในจังหวะตั้งรับก็มี นั้นก็คือคอยไล่บอลจากองหลังและผู้รักษาประตูอีกฝ่าย ในแผนสมัยใหม่ กองหน้ามีได้ตั้งแต่ 1 ถึง 3 คน ;ยกตัวอย่างเช่นในแผน 4–2–3–1 จะมีกองหน้าคนเดียว, 4–4–2 จะมีกองหน้าสองคน, 4–3–3 จะมีกองหน้า 3 คน โดยมีกองหน้าตัวเป้าหนึ่งคน และปีก 2 คน
สรุปได้ว่าจะได้รู้จักว่าในกีฬาฟุตบอลมีผู้เล่นต้องมีทั้งหมด 11 คน โดยผู้เล่นทั้งหมดทั้ง 11 คนก็ประกอบไปด้วย7 ผู้รักษาประตู กองหลัง กองกลาง เเละกองหน้าว่าพวกคนเล่นตำเเหน่งเหล่านี้ทำหน้าที่อะไรบ้างเเละมีส่วนสำคัญอย่างไรบ้างกับทีมโดยจะมีการบอกว่าเเผนเเละรูปเเบบการเล่นของกีฬาฟุตบอลโดยมีโค้ดที่เป็นจัดรูปเเบบเเผนเเละกำหนดว่าผู้เเต่ทำละเเหน่งควรมีกี่คนต่อตำเเหน่งยกเว้นผู้รักษาประตูที่มีเพียง 1 คน ผมก็หวังบทความที่นำมาเขียนจะเป็นความรู้ไม่มากไม่น้อยสำหรับคนที่สนใจกีฬาฟุตบอลเเละกติกาต่าง หากท่านต้องการหาข้อมูลเพิ่มก็สามารถหาได้ใน Google Chrome เเละ Internet Explore
อ้างอิง
หน้าที่และความสำคัญของตำแหน่งผู้รักษาประตู.ตำแหน่งของผู้เล่นฟุตบอล.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก https://www.ball2night.com/football-news/goalkeeper-duty.php?id=561
หน้าที่ของกองหลัง(ุฟุตบอล).ตำแหน่งของผู้เล่นฟุตบอล.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก https://ball2night.com/football-news/duty-backfour-howtoplay-soccer.php?id=537
เบื้องหลังเกมลูกหนัง: ตำแหน่งต่างๆ ในสนามฟุตบอล.ตำแหน่งของผู้เล่นฟุตบอล.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก https://blog.cariber.co/post/soccer-positions
ใน football หนึ่งทีมมีผู้เล่น 11 คน เป็นมี ผู้รักษาประตู1 คน และผู้เล่นตำแหน่งอื่นอีก 10 คน ซึ่งประกอบด้วยผู้ที่ทำหน้าที่ป้องกัน ( กองหลัง) ผู้อยู่แดนกลาง (กองกลาง) และผู้บุก (กองหน้า) แล้วแต่ระบบแผนที่ใช้ โดยตำแหน่งเหล่านั้นจะบ่งบอกถึงหน้าที่และพื้นที่ในการเล่นของตำแหน่งนั้น
โดยตอนแรกจะมีแค่ตำแหน่งกองหน้า , ฮาล์ฟแบ็ก และทรีควอเตอร์แบ็ก ช่วงแรกที่มีชื่ออย่างนี้เพราะว่า สมัยนั้นเป็นช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ระบบ 2–3–5 เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง การป้องกันจะมีฟุลแบ็กที่รู้จักกันในชื่อกองหลังฝั่งซ้ายและกองหลังฝั่งขวา แดนกลางจะมีเลฟต์ฮาล์ฟ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟและไรต์ฮาล์ฟ และในแนวบุกจะเป็นเอาต์ไซด์เลฟต์ อินไซด์เลฟต์ , กองหน้าตรงกลาง , อินไซด์ไรต์ และเอาต์ไซด์ไรต์ หลังจากนั้นรูปแบบระบบก็พัฒนาไปจนมีชื่อตำแหน่งมากมาย อย่างเมื่อต้นคริสต์ทศวรรษ 1970 คำว่า "ฮาล์ฟแบ็ก" ได้เปลี่ยนมาใช้คำว่า "กองกลาง" กับตำแหน่งที่เล่นในแดนกลางทั้งกลางสนามและริมเส้น กองกลางตัวกลางได้ถูกพัฒนาขึ้นอีกกลายเป็นกองกลางตัวบุกและกองกลางตัวรับ
ในเกมสมัยใหม่ ตำแหน่งในฟุตบอลได้กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดเหมือนรักบี้หรืออเมริกันฟุตบอล ถึงอย่างนั้นนักเตะส่วนใหญ่มักเล่นในตำแหน่งเดิมตลอดการค้าแข้งของพวกเขา เพราะในแต่ล่ะตำแหน่งนั้นใช้ทักษะและความสามารถทางร่างกายไม่เหมือนกัน แต่ก็มีนักฟุตบอลบางพวกที่เล่นได้หลายตำแหน่ง ซึ่งถึงเรียกว่า "นักเตะสารพัดประโยชน์"
กองกลาง หรือ มิดฟีลด์ (อังกฤษ: midfielder) คือตำแหน่งกึ่งกลางในสนามระหว่างกองหน้ากับกองหลัง โดยมีหน้าที่ครองบอลและส่งบอลสู่กองหน้า โดยกองกลางบางตำแหน่งเล่นในแนวรับ คอยหยุดการบุกจากฝ่ายตรงข้าม หรือที่เรียกว่า กองกลางตัวรับ หรือในบางตำแหน่งจะคอยสกัดกั้นการเคลื่อนที่ของฝ่ายตรงข้ามและคอยจ่ายบอลไปด้านหน้า หรือที่เรียกว่า กองกลางแนวลึก, กองกลางตัวทำเกม, กองกลางตัวกลาง และ กองกลางตัวคุมเกม โดยจำนวนของกองกลางในแต่ละทีมจะขึ้นอยู่กับแผนการเล่น ในเกมนั้น ซึ่งจะเรียกรวม ๆ ทั้งหมดว่า กองกลาง หรือ มิดฟีลด์ ผู้จัดการทีมส่วนใหญ่ จะใช้กองกลาง 1 คนเพื่อป้องกันการบุกจากฝ่ายตรงข้าม และกองกลางที่เหลือจะคอยช่วยในเกมรุกเพื่อทุกประตู หรืออาจจะเป็นกองกลางที่คอยคุมเกมกลางสนาม ซึ่งกองกลางเป็นตำแหน่งที่จะคอยวิ่งมากที่สุดในสนาม เนื่องจากต้องคอยครองบอลและวิ่งไล่บอลจากฝ่ายตรงข้าม
กองกลางมีรูปแบบย่อยอีก 4 แบบ คือ กองกลางตัวกลาง, กองกลางตัวรับ, กองกลางตัวรุก, กองกลางด้านกว้าง
1.กองกลางตัวกลาง (centre midfielder)
กองกลางตัวกลาง (centre midfielder) มีหน้าที่เชื่อมเกมระหว่างกองหลังและกองหน้า กองกลางตัวกลางนั้นมีหน้าที่มากมาย ตั้งแต่ช่วยทีมบุกในจังหวะการบุก และเมื่อเสียบอลให้อีกฝ่าย พวกเขาต้องพยายามแย่งมันมาก่อนจะถึงแนวหลัง เมื่อแนวหลังหรือพวกเขาได้ลูกบอลอีกครั้ง ตำแหน่งนี้จะเป็นคนที่เริ่มบุกก่อน บางครั้งตำแหน่งนี้จะได้รับชื่อว่า "ตัวทำเกม" (playmaker) บางครั้งตำแหน่งนี้ต้องไปอยู่แนวป้องกันเมื่อถูกบุกมาก ๆ หรือจังหวะเตะมุมของอีกฝ่าย กองกลางตัวกลางบางครั้งก็ต้องยุ่งอยู่กับจังหวะเกมอยู่ตลอดเวลาจนเรียกได้ว่าเป็น "ห้องเครื่องของทีม" (the engine room of the team) เมื่อเวลาผ่านไป กองกลางตัวกลางก็ได้รับการพัฒนาเป็นกองกลางตัวบุกและกองกลางตัวรับ ซึ่งทั้งสองตำแหน่งนี้จะอธิบายไว้ด้านล่างของกองกลางตัวกลางนี้ บางทีอาจวางตำแหน่งทั้งสามไว้ด้วยกัน หรืออาจให้กองกลางไปไว้ด้านกว้างหรือริมเส้นด้วย
2.กองกลางตัวรับ (defensive midfielder)
เป็นกองกลางที่ประจำที่ก่อนกองหลัง มีบทบาทในการป้องกัน เมื่อไม่มีการบุก กองกลางตัวรับจะรีบถอยมาตั้งรับ และแย่งลูกบอลจากทีมฝ่ายตรงข้าม แม้หน้าที่หลักจะเป็นป้องกัน แต่ก็มีกองกลางบางคนที่ทำหน้าที่เป็นตัวทำเกมในแนวลึกหรือตัวทำเกมตัวต่ำ ซึ่งสามารถกำหนดจังหวะเกมได้จากตำแหน่งที่อยู่ท้ายด้วยการผ่านบอล กองกลางตัวรับต้องการการยืนตำแหน่งที่ดี การขยันไล่บอล มีความสามารถในการสกัดบอล และต้องคาดการณ์ผู้เล่นและลูกบอลได้ดี นอกจากนี้ยังต้องการทักษะการส่งบอล และการครองบอลภายใต้ความกดดันได้ดี แต่ที่สำคัญที่สุดคือความอึด เพราะตำแหน่งนี้ต้องวิ่งไปทั่วสนามตลอดการค้าแข้ง ในสโมสรชั้นนำ กองกลางอาจวิ่งเกือบ 12 กิโลเมตร ตลอดเกม ส่วนตัวทำเกมตัวต่ำต้องการการสัมผัสบอลแรกในสถานการณ์กดดัน และทักษะส่งไกลไปอีกครึ่งสนามอย่างแม่นยำเพื่อให้เพื่อนบุก
ตัวอย่างกองกลางตัวทำลายเกมที่มีชื่อเสียงในอดีต เช่น น็อบบี สไตส์, แอร์แบร์ต วิมเมอร์ และ มาร์โค ทาร์เดลลี และในยุคหลัง
3. กองกลางตัวรุก (attacking midfielder)
กองกลางตัวรุก (attacking midfielder) คือกองกลางที่อยู่สูงกว่าปกติ แต่จะไม่เกินศูนย์หน้า เป็นผู้เล่นช่วยทีมในจังหวะบุก หน้าที่ของตำแหน่งนี้คือการสร้างโอกาสทำประตูด้วยวิสัยทัศน์ที่เหนือชั้นและทักษะของพวกเขา คนที่จะเล่นกองกลางตัวรุกต้องมีความชำนาญในการส่งบอล และที่สำคัญกว่านั้นก็คือการอ่านการเคลื่อนไหวของกองหลังเพื่อส่งบอลไปให้ศูนย์หน้าทำประตู
4.กองกลางด้านกว้าง (wide midfielder)
กองกลางด้านกว้าง (wide midfielder) หรือ กองกลางตัวริมเส้น (side midfielder)ตำแหน่งในอดีตคือไรต์ฮาล์ฟและเลฟต์ฮาล์ฟ หรืออีกชื่อคือวิงฮาล์ฟ (wing-half) เป็นตำแหน่งที่ประจำการทางซ้ายและขวาของตำแหน่งเซ็นเตอร์กองกลาง พวกเขาบางครั้งก็ถูกเรียกว่า "ปีก" (winger) เนื่องจากแผนสมัยใหม่ได้เอากองหน้าริมเส้นเลื่อนมาเล่นในตำแหน่งกองกลางด้านกว้าง ทำให้ยังมีการใช้คำว่าปีกอยู่
อ้างอิง
ตำแหน่งผู้เล่นฟุตบอล.รายละเอียดตำเเหน่งกองกลางของกีฬาฟุตบอล.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก https://knachai.wordpress.com/ตำเเหน่งของผุ้เล่น/
กองกลาง.รายละเอียดตำเเหน่งกองกลางของกีฬาฟุตบอล.[ออนไลน์].เข้าถึงไดจาก https://hmong.in.th/wiki/Midfielder
ตัวย่อของตำเเหน่งกีฬาฟุตบอล.รายละเอียดตำเเหน่งกองกลางของกีฬาฟุตบอล.[ออนไลน์].เข้าถึงไดจาก https://www.facebook.com/102501048141086/posts/1565024427
ใน football หนึ่งทีมมีผู้เล่น 11 คน เป็นมี ผู้รักษาประตู 1 คน และผู้เล่นตำแหน่งอื่นอีก 10 คน ซึ่งประกอบด้วยผู้ที่ทำหน้าที่ป้องกัน (กองหลัง) กองกลาง และผู้บุก (กองหน้า) แล้วแต่ระบบแผนที่ใช้ โดยตำแหน่งเหล่านั้นจะบ่งบอกถึงหน้าที่และพื้นที่ในการเล่นของตำแหน่งนั้น
โดยตอนแรกจะมีแค่ตำแหน่งกองหน้า , ฮาล์ฟแบ็ก และทรีควอเตอร์แบ็ก ช่วงแรกที่มีชื่ออย่างนี้เพราะว่า สมัยนั้นเป็นช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ระบบ 2–3–5 เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง การป้องกันจะมีฟุลแบ็กที่รู้จักกันในชื่อกองหลังฝั่งซ้ายและกองหลังฝั่งขวา แดนกลางจะมีเลฟต์ฮาล์ฟ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟและไรต์ฮาล์ฟ และในแนวบุกจะเป็นเอาต์ไซด์เลฟต์ อินไซด์เลฟต์ , กองหน้าตรงกลาง , อินไซด์ไรต์ และเอาต์ไซด์ไรต์ หลังจากนั้นรูปแบบระบบก็พัฒนาไปจนมีชื่อตำแหน่งมากมาย อย่างเมื่อต้นคริสต์ทศวรรษ 1970 คำว่า "ฮาล์ฟแบ็ก" ได้เปลี่ยนมาใช้คำว่า "กองกลาง" กับตำแหน่งที่เล่นในแดนกลางทั้งกลางสนามและริมเส้น กองกลางตัวกลางได้ถูกพัฒนาขึ้นอีกกลายเป็นกองกลางตัวบุกและกองกลางตัวรับ
ในเกมสมัยใหม่ ตำแหน่งในฟุตบอลได้กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดเหมือนรักบี้หรืออเมริกันฟุตบอล ถึงอย่างนั้นนักเตะส่วนใหญ่มักเล่นในตำแหน่งเดิมตลอดการค้าแข้งของพวกเขา เพราะในแต่ล่ะตำแหน่งนั้นใช้ทักษะและความสามารถทางร่างกายไม่เหมือนกัน แต่ก็มีนักฟุตบอลบางพวกที่เล่นได้หลายตำแหน่ง ซึ่งถึงเรียกว่า "นักเตะสารพัดประโยชน์
กองหลัง (อังกฤษ: defender) เป็นตำแหน่งในกีฬาฟุตบอล ผู้เล่นที่เล่นเป็นกองหลังมีหน้าที่ป้องกันการบุกของคู่ต่อสู้ โดยกองหลังจะยืนอยู่ถัดจากกองกลาง และอยู่ก่อนหน้าผู้รักษาประตู
กองหลังมีรูปแบบย่อยอีก 4 แบบ คือ เซ็นเตอร์แบ็ก, ฟุลแบ็ก, วิงแบ็ก และสวีปเปอร์
กองหลังตัวกลาง (centre-back) หรือที่ในอดีตเรียกว่าเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ หน้าที่ของพวกเขาคือการหยุดผู้เล่นอีกฝ่าย (โดยเฉพาะศูนย์หน้า)จากการทำประตู และนำลูกบอลออกจากเขตโทษ ตำแหน่งนี้เล่นอยู่ตรงกลางของแผงหลังตามชื่อ ทีมส่วนใหญ่มักจะใช้ 2 คน การยืนตำแหน่งจะยืนหน้าผู้รักษาประตู ทั้งสองเป็นหัวใจหลักในแนวรับ ทั้งการคุมพื้นที่และการประกบตัวต่อตัว
กองหลังตัวกลางมักจะสูง แข็งแกร่ง และต้องมีความสามารถการกระโดดสูง การโหม่งดี และการแย่งลูกได้ดี กองหลังตัวกลางที่ประสบความสำเร็จต้องมีสมาธิ อ่านเกมได้อย่างยอดเยี่ยม และมีความกล้าหาญและเด็ดขาดในการแย่งลูกจากอีกฝ่ายที่จะผ่านไปทำประตู บางครั้งโดยเฉพาะลีกล่าง ๆ กองหลังตัวกลางยังขาดการมีสมาธิในการควบคุมบอลและส่งบอลไม่ดี ทำได้เพียงแค่ปลอดภัยไว้ก่อน ถึงอย่างนั้น สำหรับกองหลังตัวกลางขอเพียงแค่มีทักษะฟุตบอลขั้นพื้นฐานเพื่อรูปแบบการเล่นที่เน้นการครองบอลเท่านั้นก็พอ
ตำแหน่งนี้บางครั้งจะถูกเรียกว่าเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ เดิมในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ระบบแผน 2–3–5 เป็นที่นิยม แถมสามคนจะถูกเรียกว่าฮาล์ฟแบ็ก เมื่อระบบแผนพัฒนาต่อมา ผู้เล่นตรงกลางทั้งสามนี้ (เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ) ได้ย้ายมาตำแหน่งป้องกันมากขึ้น ปัจจุบันยังมีคนเรียกชื่อเหล่านี้อยู่
เซ็นเตอร์แบ็กส่วนใหญ่มีรูปร่างสูง และมีทักษะในการโหม่ง การประกบ ในบางครั้งเซ็นเตอร์แบ็กที่มีรูปร่างสูงใหญ่อาจขึ้นไปช่วยโหม่งทำประตู เมื่อทีมได้ลูกตั้งเตะ เช่น ลูกเตะคอร์เนอร์ หรือ ฟรีคิก
เดิมทีตำแหน่งนี้ถูกเรียกว่า เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ (center half) เนื่องจากในช่วงก่อนศตวรรษที่ 20 ทีมส่วนมากนิยมใช้แผนการเล่นแบบ 2-3-5 โดยผู้เล่นกองหลัง 3 คนสุดท้ายจะเรียกว่า เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ
ตัวอย่างเซ็นเตอร์แบ็กที่มีชื่อเสียงในอดีต ได้แก่ ฟาบีโอ กันนาวาโร, เปาโล มัลดีนี, อาเลสซันโดร เนสตา, จอห์น เทร์รี, ลีลีย็อง ตูว์ร็อง, ลูซียู, การ์เลส ปูยอล, วีลียาม กาลัส, เจมี คาร์เรเกอร์ และริโอ เฟอร์ดินานด์ เป็นต้น
ส่วนเซ็นเตอร์แบ็กที่มีชื่อเสียงและยังคงเล่นอยู่ได้แก่ เซร์ฆิโอ ราโมส, เฟอร์จิล ฟัน ไดก์, ราฟาแอล วาราน, จอร์โจ กีเอลลีนี
แบ็กซ้าย (left-back) และ แบ็กขวา (right-back) หรือที่ปกติจะเรียก ฟุลแบ็ก (full-back) จะประจำตำแหน่งที่ด้านข้างของกองหลังตัวกลาง เพื่อป้องกันการบุกจากริมเส้น และบ่อยครั้งที่ต้องไปหยุดการบุกของตำแหน่งปีกฝ่ายตรงข้ามที่พยายามผ่าน หรือโยนบอลเข้าเขตโทษ ตามปกติลูกเตะมุมหรือลูกฟรีคิก ฟุลแบ็กจะไม่ขึ้นไปช่วยแนวหน้า แต่อาจอยู่ประมาณเส้นครึ่งสนาม ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแผนของแนวรับนั้น ๆ ด้วย ในเกมสมัยใหม่มีแนวโน้มที่จะให้ฟุลแบ็ก (วิงแบ็ก) มีบทบาทในการบุกด้วย แต่พวกนั้นจะไม่ถูกเรียกว่าแบ็กขวาหรือแบ็กซ้าย
เดิมฟุลแบ็กเป็นแนวรับสุดท้ายของทีม แต่เมื่อเข้าคริสต์ศตวรรษที่ 20 ตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟได้ถอยร่นลงมากลายเป็นตำแหน่ง "กองหลังตัวกลาง" ฟุลแบ็กได้ถูกย้ายมาริมเส้นกลายเป็นแบ็กขวาและแบ็กซ้าย
ตัวอย่างฟุลแบ็กที่มีชื่อเสียงได้แก่ โรแบร์ตู การ์ลุส, แอชลีย์ โคล, จันลูกา ซัมบรอตตา เป็นต้น
วิงแบ็ก (wing-back) หรือฟุลแบ็กตัวบุก คือกองหลังที่เน้นในการบุก ชื่อตำแหน่งนี้มาจากปีก (winger) และฟุลแบ็กผสมกัน ปกติตำแหน่งนี้จะใช้ในแผน 3–5–2 จึงถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของแดนกลางในจังหวะการบุก หรือบางทีก็ใช้ในแผน 5–3–2 แต่คำว่าวิงแบ็กไม่ค่อยได้ใช้ในปัจจุบัน โดยเฉพาะเมื่อเล่นแผน 4–3–3 หรือ 4–2–3–1
ผู้เล่นวิงแบ็กจำเป็นต้องใช้พลกำลังอย่างมากในฟุตบอลสมัยใหม่ วิงแบ็กมักจะเล่นบนสนามมากกว่าฟุลแบ็กทั่วไปโดยเฉพาะกับทีมที่ไม่มีผู้เล่นปีก วิงแบ็กต้องการความอึดเป็นพิเศษในการวิ่งขึ้นไปแนวรุกและลงมาตั้งรับ
ตัวอย่างวิงแบ็กที่มีชื่อเสียงและยังเล่นอยู่ได้แก่ โรเบร์ตู การ์ลูส, ดานีแยล อัลวิส, ฆาบิเอร์ ซาเนตติ, จันลูกา ซัมบรอตตา, ฟิลลิพ ลาห์ม, ไมกง โดกลัส ซีเซนังดู และยอห์น อาร์เน รีเซ เป็นต้น
สวีปเปอร์ (sweeper) หรือ ลีเบโร (อิตาลี: libero) เป็นตำแหน่งที่แตกมาจากกองหลังตัวกลางอีกที หรือเป็นตำแหน่งที่มีกองหลังตัวกลางสามคน ซึ่งเป็นตำแหน่งระหว่างกองหลังตัวกลางทั้งสอง ชื่อนี้มาจากวลี "sweeps up" ในการขจัดบอลที่อีกฝ่ายเลี้ยงฝ่าแนวรับมาได้ ตำแหน่งพวกเขานั้นมีความเป็นอิสระมากกว่าแผงหลังซึ่งคอยประกบอีกฝ่ายที่ถูกกำหนดขึ้น ตำแหน่งสวีปเปอร์จำเป็นต้องมีทักษะอ่านเกมได้ยิ่งกว่ากองหลังตัวกลาง ในปัจจุบันมีกฎล้ำหน้าซึ่งมักใช้แนวนับในการจับอีกฝ่ายล้ำหน้า ทำให้ตำแหน่งนี้ไม่ค่อยได้รับความนิยมในปัจจุบัน
สวีปเปอร์ที่มีชื่อเสียงในวงการฟุตบอลมีไม่มากนัก เช่น ฟรันทซ์ เบ็คเคินเบาเออร์, มัททีอัส ซัมเมอร์ เป็นต้น ผู้เล่นในปัจจุบันได้แก่ ริโอ เฟอร์ดินานด์, มาร์โค มาเตรัซซี, ดาวิด ลูอิส โมเรย์รา มาริญญู
อ้างอิง
รวม 15 กองหลังโคตรแพงแห่งวงการฟุตบอล (อัพเดทหลังการย้ายของ เวสลีย์ โฟฟานา).รายละเอียดตำเเหน่งกองหลังของกีฬาฟุตบอล.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก https://www.sportingnews.com/th/football/news/รวม-15-กองหลังโคตรแพงแห่งวงการฟุตบอล-อัพเดทหลังการย้ายของ-เวสลีย์-โฟฟานา/jozov6pqqr4l05vgrttgnae4
หน้าที่ของกองหลัง.รายละเอียดตำเเหน่งกองหลังของกีฬาฟุตบอล.[ออนไลน์]..เข้าถึงได้จาก https://ball2night.com/football-news/duty-backfour-howtoplay-soccer.php?id=5
กองหลัง (สมาคมฟุตบอล)รายละเอียดตำเเหน่งกองหลังของกีฬาฟุตบอล.[ออนไลน์]..เข้าถึงได้จาก https://hmong.in.th/wiki/Defender_(football)
ใน footballหนึ่งทีมมีผู้เล่นฟุตบอล 11 คน เป็นมี ผู้รักษาประตู1 คน และผู้เล่นตำแหน่งอื่นอีก 10 คน ซึ่งประกอบด้วยผู้ที่ทำหน้าที่ป้องกัน ( กองหลัง) ผู้อยู่แดนกลาง (กองกลาง) และผู้บุก (กองหน้า) แล้วแต่ระบบแผนที่ใช้ โดยตำแหน่งเหล่านั้นจะบ่งบอกถึงหน้าที่และพื้นที่ในการเล่นของตำแหน่งนั้น
โดยตอนแรกจะมีแค่ตำแหน่งกองหน้า , ฮาล์ฟแบ็ก และทรีควอเตอร์แบ็ก ช่วงแรกที่มีชื่ออย่างนี้เพราะว่า สมัยนั้นเป็นช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ระบบ 2–3–5 เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง การป้องกันจะมีฟุลแบ็กที่รู้จักกันในชื่อกองหลังฝั่งซ้ายและกองหลังฝั่งขวา แดนกลางจะมีเลฟต์ฮาล์ฟ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟและไรต์ฮาล์ฟ และในแนวบุกจะเป็นเอาต์ไซด์เลฟต์ อินไซด์เลฟต์ , กองหน้าตรงกลาง , อินไซด์ไรต์ และเอาต์ไซด์ไรต์ หลังจากนั้นรูปแบบระบบก็พัฒนาไปจนมีชื่อตำแหน่งมากมาย อย่างเมื่อต้นคริสต์ทศวรรษ 1970 คำว่า "ฮาล์ฟแบ็ก" ได้เปลี่ยนมาใช้คำว่า "กองกลาง" กับตำแหน่งที่เล่นในแดนกลางทั้งกลางสนามและริมเส้น กองกลางตัวกลางได้ถูกพัฒนาขึ้นอีกกลายเป็นกองกลางตัวบุกและกองกลางตัวรับ
ในเกมสมัยใหม่ ตำแหน่งในฟุตบอลได้กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดเหมือนรักบี้หรืออเมริกันฟุตบอล ถึงอย่างนั้นนักเตะส่วนใหญ่มักเล่นในตำแหน่งเดิมตลอดการค้าแข้งของพวกเขา เพราะในแต่ล่ะตำแหน่งนั้นใช้ทักษะและความสามารถทางร่างกายไม่เหมือนกัน แต่ก็มีนักฟุตบอลบางพวกที่เล่นได้หลายตำแหน่ง ซึ่งถึงเรียกว่า "นักเตะสารพัดประโยชน์"
กองหน้า (forward, striker) เป็นตำแหน่งของผู้เล่นฟุตบอลที่เล่นอยู่บริเวณหน้าประตูอีกฝ่าย หน้าที่หลักของกองหน้าก็คือทำประตู หรือสร้างโอกาสให้ผู้เล่นอื่นทำประตู หน้าที่ในจังหวะตั้งรับก็มี นั้นก็คือคอยไล่บอลจากองหลังและผู้รักษาประตูอีกฝ่าย ในแผนสมัยใหม่ กองหน้ามีได้ตั้งแต่ 1 ถึง 3 คน ;ยกตัวอย่างเช่นในแผน 4–2–3–1 จะมีกองหน้าคนเดียว, 4–4–2 จะมีกองหน้าสองคน, 4–3–3 จะมีกองหน้า 3 คน โดยมีกองหน้าตัวเป้าหนึ่งคน และปีก 2 คน
กองหน้ามีรูปแบบย่อยอีก 3 แบบ คือ กองหน้าตัวเป้า, กองหน้าตัวต่ำ, ปีก
กองหน้า
1.กองหน้าตัวเป้า (Striker)
กองหน้าตัวเป้า หรือ กองหน้าตัวกลาง (centre forward) หรือ กองหน้าตัวหลัก (main striker) หรือ สไตรเกอร์ (striker) หน้าที่หลักของพวกเขาคือการทำประตู และเป็นหัวใจหลักในการบุกของทีม เมื่อก่อนกองหน้าต้องตัวสูง และแข็งแกร่งทางร่างกายเพื่อแย่งลูกในจังหวะที่มีคนโยนบอลเข้ามาเพื่อทำประตู ทำให้พวกเขาต้องพยายามทำประตูทั้งการเล่นกับเท้า การโหม่ง อีกทั้งส่งให้เพื่อนทำประตู ในปัจจุบันที่เน้นจังหวะบอลเร็วมากขึ้น การเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วจึงเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อฟุตบอลยุคนี้ บทบาทของกองหน้าค่อนข้างแตกต่างจากกองหน้าตัวกลางแบบดั้งเดิม แม้ว่าคำว่ากองหน้าและกองหน้าจะใช้สลับกันได้ในบางครั้ง เนื่องจากทั้งคู่เล่นในสนามได้ไกลกว่าผู้เล่นคนอื่น ในขณะที่ผู้เล่นสูง หนัก และเทคนิค กองหน้าที่ดีควรจะสามารถยิงได้อย่างมั่นใจด้วยเท้าทั้งสองข้าง มีพลังและความแม่นยำที่ยอดเยี่ยม และมีความสามารถในการเชื่อมโยงกับเพื่อนร่วมทีมและส่งบอลภายใต้ความกดดันในสถานการณ์ที่แตกแยก
2. กองหน้าตัวต่ำ (second striker, support striker)
กองหน้าตัวต่ำ (second striker, support striker) ในอดีตตำแหน่งนี้จะถูกเรียกว่ากองหน้าตัวใน (inside forward) ถึงจะมีประวัติมายาวนาน แต่นิยามของตำแหน่งนี้ก็แตกต่างกันไปทุกยุค การเป็นกองหน้าตัวต่ำนั้นไม่จำเป็นต้องมีตัวสูง หรือมีความแข็งแกร่งทางร่างกายเท่ากองหน้าตัวกลาง พวกต้องการทักษะเพื่อช่วยสร้างโอกาสทำประตูให้กองหน้าตัวกลาง การปั่นกองหลังฝ่ายตรงข้าม และถ้ามีโอกาสก็ยิงประตูด้วยตัวเอง วงหลายปีที่ผ่านมา เดิมทีผู้เล่นดังกล่าวถูกเรียกว่ากองหน้าที่สร้างสรรค์หรืออยู่ตรงกลางลึก ("กองหน้ารอง") ไม่นานมานี้ มีการพัฒนารูปแบบอื่นอีกสองรูปแบบของผู้เล่นแบบเก่านี้: แบบที่สอง หรือเงา หรือแนวรับ หรือกองหน้าเสริม และในความเป็นจริง ตำแหน่งที่แตกต่างสำหรับตัวมันเอง
3.ปีก (Wing)
ปีก (winger) ประกอบด้วย ปีกซ้าย (left winger) และ ปีกขวา (right winger) ในอดีตเรียกตำแหน่งนี้ว่ากองหน้าตัวนอก (outside forward) เป็นตำแหน่งของผู้เล่นที่จะบุกจากทางริมเส้นขอบสนาม ในปัจจุบันตำแหน่งนี้ถูกเรียกว่าปีก หน้าที่ของตำแหน่งนี้คือใช้ความเร็วในการบุกผ่าฟุลแบ็กเพื่อป่วนกองหลัง แล้วส่งลูกหรือโยนลูกเข้าไปให้คนบุกอื่นอีกที หรืออาจบุกผ่ากองหลังคนอื่นเข้าไปทำประตูเอง
ปีกซ้าย (left winger) และ ปีกขวา (right winger) เป็นผู้เล่นที่โจมตีที่ประจำการอยู่ในตำแหน่งที่กว้างใกล้ พวกเขาสามารถจัดประเภทเป็นกองหน้าโดยพิจารณาจากต้นกำเนิดของพวกเขาในฐานะตำแหน่ง "นอก - ไปข้างหน้า มันเป็นหน้าที่ของฝ่ายซ้ายที่จะชนะฝ่ายตรงข้ามหลังเต็มรูปแบบส่งมอบตัดหลังหรือข้ามจากตำแหน่งที่กว้างและในระดับที่น้อยกว่าที่จะชนะป้อมปราการและคะแนนจากระยะใกล้ พวกเขามักจะเป็นผู้เล่นที่รวดเร็วที่สุดในทีมและมักจะมีทักษะการเลี้ยงบอลที่ดีเช่นกัน
ตัวอย่างปีกที่มีชื่อเสียงในอดีต Joaquín (ปีก/กองกลาง) หรือRyan Giggs (ฝ่ายซ้าย/กองหน้า) และJohn Barnes (ฝ่ายซ้าย/กองกลาง)
สรุปได้ว่าจะได้รู้จักว่าในกีฬา football มีตำแหน่งของผู้เล่นฟุตบอลต้องมีทั้งหมด 11 คน โดยผู้เล่นทั้งหมดทั้ง 11 คนก็ประกอบไปด้วย ผู้รักษาประตู กองหลัง กองกลาง เเละกองหน้าว่าพวกคนเล่นตำเเหน่งเหล่านี้ทำหน้าที่อะไรบ้างเเละมีส่วนสำคัญอย่างไรบ้างกับทีมโดยจะมีการบอกว่าเเผนเเละรูปเเบบการเล่นของกีฬาฟุตบอลโดยมีโค้ดที่เป็นจัดรูปเเบบเเผนเเละกำหนดว่าผู้เเต่ทำละเเหน่งควรมีกี่คนต่อตำเเหน่งยกเว้นผู้รักษาประตูที่มีเพียง 1 คน ผมก็หวังบทความที่นำมาเขียนจะเป็นความรู้ไม่มากไม่น้อยสำหรับคนที่สนใจกีฬาฟุตบอลเเละกติกาต่าง หากท่านต้องการหาข้อมูลเพิ่มก็สามารถหาได้ใน Google Chrome เเละ Internet Explore
อ้างอิง
ตำแหน่งต่างๆ ในสนามฟุตบอล.รายละเอียดตำเเหน่งกองหน้าของกีฬาฟุตบอล.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก https://blog.cariber.co/post/soccer-positions
ตำแหน่งและหน้าที่ของผู้เล่น.รายละเอียดตำเเหน่งกองหน้าของกีฬาฟุตบอล.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก https://sites.google.com/site/thefootball54/tahaenng-laea-hnathi-khxng-phu-len
วิธีการเล่นและตำแหน่งของนักฟุตบอล.รายละเอียดตำเเหน่งกองหน้าของกีฬาฟุตบอล.[ออนไลน์].เข้าถึงได้จาก http://wanchai39.blogspot.com/p/blog-page_23.html