สายตาขี้เกียจ
ตาขี้เกียจคืออะไร?
ตาขี้เกียจคือภาวะที่ตาข้างหนึ่งมีการมองเห็นแย่กว่าตาอีกข้างหนึ่งเป็นผลจากการพัฒนาของสายตา ผิดปกติในวัยเด็กเล็ก สาเหตุอาจจะเกิดจากตาเข ต้อกระจก หนังตาตก หรือสายตา 2 ข้างแตกต่างกันมากเนื่องจากสายตายาว สั้น หรือเอียงมาก ๆ
โดยเป็นภาวะที่สายตาเเม้ใส่เเว่นตาเเล้ว แย่ลงโดยไม่สามารถอธิบายอย่างตรงไปตรงมาตามความผิดปกติของตา ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุจากความผิดปกติในการพัฒนาของสายตาช่วงวัยเด็ก โดยทั่ว ๆ ไปมักจะเป็นผลจากตาเข สายตาสั้น ยาว เอียง หรือโรคอื่น ๆ ที่ทำให้การรับภาพจากตาส่งไปยังสมองไม่ชัดเจน สาเหตุส่วนใหญ่จะเกิดจากตาเข รองลงมาเป็นสายตาสองข้างไม่เท่ากัน และความขุ่นของตาตามลำดับ สายตาขี้เกียจอาจจะเป็นในตาเดียวหรือ 2 ตาก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นตาเดียว
อุบัติการณ์พบได้ประมาณร้อยละ 1 - 5 ของประชากรทั่วไป
การพัฒนาของระบบการมองเห็นจะเริ่มตั้งแต่แรกคลอดจะกระทั่งอายุประมาณ 9 ขวบโดยจะพัฒนาเร็วมากในช่วงวัยทารก ดังนั้นหากมีการหยุดยั้งการพัฒนาในช่วงอายุดังกล่าวจากสาเหตุต่างๆที่ทำให้ ตามัวดังที่กล่าวในตอนต้น แล้วไม่ได้รับการรักษาก็จะเกิดภาวะสายตาขี้เกียจได้
การวินิจฉัยหากตรวจพบได้เร็วหรือภายในอายุ 3 - 4 ขวบก็สามารถจะรักษาได้ดีขึ้นเร็วแต่โดยส่วนใหญ่มักจะตรวจพบลำบากจนกระทั่ง เด็กโตซึ่งจะวัดสายตาได้ง่ายแต่ก็จะรักษายากขึ้น โดยปกติหากเป็นการตรวจคัดกรองแนะนำว่าควรจะส่งพบจักษุแพทย์เมื่อตรวจสายตา ได้ 20/40 ขึ้นไปหรือตา 2 ข้างมีระดับสายตาต่างกัน 2 แถวขึ้นไป
การรักษา
การดูแลเด็กที่มีภาวะสายตาขี้เกียจ ค่อนข้างจะซับซ้อนจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่ายทั้ง จักษุแพทย์ ผู้ช่วยแพทย์ ผู้ป่วย ผู้ปกครอง ครอบครัวและผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น ครู ให้เข้าใจตรงกันและช่วยกันรักษา เมื่อพบผู้ป่วยสายตาขี้เกียจ จักษุแพทย์จำเป็นต้องวินิจฉัย ประเมินความรุนแรงของโรค และวางแผนการรักษาพร้อมทั้งอธิบายให้ผู้ป่วยและผู้ปกครองให้เข้าใจตรงกันรวม ถึงผลดีผลเสียในการรักษาโดยทั่ว ๆ ไปแล้วจุดหมายในการรักษาเพื่อกระตุ้นให้ตามีสายตาที่ปกติ หรืออย่างน้อยไม่ควรต่างกันเกิน 1 แถว ในที่สุดหากสามารถรักษาจนได้ระดับสายตาที่ต้องการแล้วการรักษาควรจะค่อย ๆ ลดลง ติดตามตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอเพื่อคงสภาพสายตาจนอายุอย่างน้อย 9 ขวบ
การรักษาตาที่มีภาวะสายตาขี้เกียจ เป็นการกระตุ้นการส่งสัญญาณประสาทไปยังศูนย์การมองเห็นในสมอง จะได้ผลต้องทำในช่วงวัยเด็กที่กำลังมีการพัฒนาของระบบการมองเห็น ไม่เกิน 8-10 ขวบ โดยมีขั้นตอนการรักษาภาวะสายตาขี้เกียจ ดังนี้
1.กำจัดสาเหตุที่บังการมองเห็น เช่นต้อกระจก หนังตาตก เพื่อให้ตาข้างนั้นมองเห็นภาพชัดที่สุด แต่หากมีตาเขจำเป็นจะต้องใช้วิธีการปิดตา ก่อนการผ่าตัดกล้ามเนื้อตา
2.แก้ไขภาวะสายตาผิดปกติ โดยหยอดยาเพื่อลดการเพ่งของสายตาก่อนวัดเเว่น อาจจะแก้ไข โดยใช้แว่นสายตาหรือเลนส์สัมผัส ซึ่งบางครั้งก็ได้ผลดีแล้ว เช่น ภาวะสายตาขี้เกียจจากสายตาสองข้างไม่เท่ากันที่ไม่มีตาเข การใช้แว่นสายตาเพียงอย่างเดียวก็อาจจะสามารถแก้ไขได้ แต่เมื่อติดตามผลแล้วยังไม่ได้ผลเต็มที่ก็อาจจะต้องเสริมด้วยวิธีการปิดตาต่อไป แว่นตาที่เหมาะสมควรใช้ polycarbonate lenses เนื่องจาก บาง เบาและปลอดภัยกว่าพลาสติกหรือแก้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งแก้วไม่ควรใช้ในเด็ก
3.ในกรณีที่มีสายตาขี้เกียจตาเดียวหรือ 2 ตาไม่เท่ากันจะรักษาโดยกระตุ้นให้ใช้ตาข้างที่เสียใช้งาน โดยจำกัดการใช้ตาดีส่วนใหญ่ใช้วิธีการปิดตา
มีวิธีการป้องกันอย่างไร
ภาวะสายตาขี้เกียจ จะก่อให้เกิดการสูญเสียของสายตาน้อยหากสามารถตรวจพบและรักษาได้เร็ว โดยทั่ว ไปเด็กไม่สามารถบอกได้เมื่อมีปัญหาสายตาและผู้ปกครองก็ตรวจได้ยากดัง นั้นการตรวจคัดกรองสายตาจึงจำเป็นเพื่อจะได้ตรวจพบได้เร็ว เริ่มตั้งแต่ช่วงเด็กแรกคลอด จนกระทั่งวัยก่อนเข้าเรียน ในวัยเด็กเล็กจักษุแพทย์อาจจะใช้เทคนิคการตรวจเพื่อหาตาเข ส่องไฟเข้าตาเพื่อดูแสงสะท้อนจากจอประสาทตาว่ามีความขุ่นมัวในลูกตาหรือ ไม่ ส่วนการตรวจคัดกรองสายตาควรจะทำเมื่ออายุ 3 ขวบ
ที่มา : http://www.vcharkarn.com/
สายตาขี้เกียจ
-
- Sr. Member
- โพสต์: 377
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 26, 2009 11:17 am
-
- Newbie
- โพสต์: 2
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ย. 09, 2015 9:31 am
Re: สายตาขี้เกียจ
มีแบบนี้ด้วยหรอ เพิ่งรู้เลยฮะ
-
- Newbie
- โพสต์: 2
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มิ.ย. 30, 2017 7:36 am
-
- Newbie
- โพสต์: 2
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มิ.ย. 30, 2017 7:36 am