โดย icphysics » เสาร์ พ.ค. 30, 2015 11:53 pm
สิงคโปร์จับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุเตรียมล็อคผลบอลซีเกมส์
ฝ่ายจัดการแข่งขันซีเกมส์ของสิงคโปร์เปิดเผยว่า จะไม่เลื่อนหรือยกเลิกการแข่งขันฟุตบอลซีเกมส์ครั้งนี้ แม้ว่าหน่วยงานป้องกันและปรามปรามการทุจริตของสิงคโปร์ จะเปิดเผยว่าได้จับกุมผู้ต้องหาหลายรายจากความผิดกรณีสมรู้ร่วมคิด เตรียมล็อคผลการแข่งขันฟุตบอลซีเกมส์ ซึ่งการล็อคผลครั้งนี้มีนักฟุตบอลของทีม ติมอร์ เลสเต้ ร่วมเข้าร่วมให้ข้อมูล 3 คน
เบื้องต้นสิงคโปร์จับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุเตรียมล็อคผลบอลซีเกมส์ได้แล้ว 4 คน คือ ราเจนทรา คุรุสมี ชายเชื้อสายอินเดีย ที่ถูกกล่าวหาว่าได้นัดพบกับ ออร์แลนโด้ เมนเดส ผู้อำนวยการเทคนิคของสหพันธ์ฟุตบอล ติมอร์ เลสเต้ เพื่อมอบเงินจำนวนมอบเงิน 15,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 375,000 บาท แลกกับการล็อคผลการแข่งขันคู่ระหว่างติมอร์ กับมาเลเซีย ที่จะเตะกันในคืนนี้ (30 พ.ค.) แต่ ราเจนทรา ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด
ส่วนคนอื่นๆ ที่ถูกจับกุม มี อดีตนักฟุตบอลของ ติมอร์ เลสเต้ และ นักฟุตบอล อินโดนีเซีย รวมอยู่ด้วย ซึ่งทั้งหมดจะถูกนำตัวขึ้นศาลอีกครั้ง วันที่ 5 มิ.ย. หากพบว่ามีความผิดจริง อาจต้องโทษจำคุก 5 ปี และปรับเงินอีก 100,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 2.5 ล้านบาท
ref:
http://news.thaipbs.or.th
[b]สิงคโปร์จับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุเตรียมล็อคผลบอลซีเกมส์[/b]
ฝ่ายจัดการแข่งขันซีเกมส์ของสิงคโปร์เปิดเผยว่า จะไม่เลื่อนหรือยกเลิกการแข่งขันฟุตบอลซีเกมส์ครั้งนี้ แม้ว่าหน่วยงานป้องกันและปรามปรามการทุจริตของสิงคโปร์ จะเปิดเผยว่าได้จับกุมผู้ต้องหาหลายรายจากความผิดกรณีสมรู้ร่วมคิด เตรียมล็อคผลการแข่งขันฟุตบอลซีเกมส์ ซึ่งการล็อคผลครั้งนี้มีนักฟุตบอลของทีม ติมอร์ เลสเต้ ร่วมเข้าร่วมให้ข้อมูล 3 คน
เบื้องต้นสิงคโปร์จับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุเตรียมล็อคผลบอลซีเกมส์ได้แล้ว 4 คน คือ ราเจนทรา คุรุสมี ชายเชื้อสายอินเดีย ที่ถูกกล่าวหาว่าได้นัดพบกับ ออร์แลนโด้ เมนเดส ผู้อำนวยการเทคนิคของสหพันธ์ฟุตบอล ติมอร์ เลสเต้ เพื่อมอบเงินจำนวนมอบเงิน 15,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 375,000 บาท แลกกับการล็อคผลการแข่งขันคู่ระหว่างติมอร์ กับมาเลเซีย ที่จะเตะกันในคืนนี้ (30 พ.ค.) แต่ ราเจนทรา ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด
ส่วนคนอื่นๆ ที่ถูกจับกุม มี อดีตนักฟุตบอลของ ติมอร์ เลสเต้ และ นักฟุตบอล อินโดนีเซีย รวมอยู่ด้วย ซึ่งทั้งหมดจะถูกนำตัวขึ้นศาลอีกครั้ง วันที่ 5 มิ.ย. หากพบว่ามีความผิดจริง อาจต้องโทษจำคุก 5 ปี และปรับเงินอีก 100,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 2.5 ล้านบาท
ref: http://news.thaipbs.or.th