![]() |
กีฬายิงปืน (Shooting) เป็นกีฬาที่แข่งกันที่ความแม่นยำ ในตอนนั้นมีการแข่งขันเพียง 3 รายการเท่านั้น จากนั้นกีฬายิงปืนก็ได้รับการบรรจุในโอลิมปิกมาโดยตลอด ขาดอยู่เพียง 2 ครั้ง คือ ปี 1904 ที่เซนต์หลุยส์ สหรัฐอเมริกา และ ปี 1928 ที่ อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ รายการประเภททีมซึ่งมีทั้งปืนสั้นและปืนยาวค่อยๆถูกตัดออกไปจนหมดไปอย่างสิ้นเชิงในปี 1948 |
การยิงนกชนิดนี้ได้แพร่หลายไปทั่วอังกฤษ ยุโรปและอเมริกา ผู้ชนะเลิศการแข่งขันจะได้รางวัลเป็นเงินสดจำนวนมาก เมื่อความนิยมในการยิงเป้าเป็นนกจริงที่มีชีวิตแพร่หลายมากขึ้น จึงได้เกิดความคิดที่จะใช้เป้าที่ไม่มีชีวิตขึ้นมาแทนนกจริง ๆ ในขั้นต้น ได้เริ่มใช้ลูกแก้วกลม ๆ ขนาด 02.5 นิ้ว บางครั้งก็มีการใส่ขนนกในลูกแก้วซึ่งเมื่อยิงแตก จะเห็นได้ง่ายเพราะขนนกจะกระจายในอากาศ แต่ข้อเสียของลูกแก้วก็คือ เมื่อถูกเหวี่ยงไปในอากาศจะไม่ได้ทิศทางและระยะที่สม่ำเสมอ วัสดุอื่นที่นำมาใช้เป็นเป้า ได้แก่ ดีบุกซึ่งมีข้อดีคือนำกลับมาใช้ได้อีกหลายครั้ง ไม่เหมือนลูกแก้วแต่มองเห็นยากเมื่อถูกยิง
ต่อมาในสหรัฐอเมริกา ปี พ.ศ. 2423 George Logowsky ได้ประดิษฐ์เป้าดิน (Clay Pigeon) มีลักษณะคล้ายจานและในอังกฤษก็มี Mc Caskey ซึ่งได้ออกแบบเป้าดินคล้ายกันขึ้นมา เป้าดินนี้ได้รับความนิยมมาก เพราะทิศทางการบินและระยะทางสามารถกำหนดได้ตามต้องการเหมือนการบินของนกจริง เป้าดินจะถูกหล่อในแบบแล้วนำไปอบให้แห้งการยิงเป้าดิน จึงได้เข้ามาแทนที่เป้านกจริงมากขึ้นเรื่อย ๆ และในที่สุดก็ได้ยกเลิกการแข่งขันที่ใช้นกจริงมาเป็นเป้าดินแทน
1. กีฬายิงเป้าบินที่มีการแข่งขันในระดับสากลและโอลิมปิค
1.1 สกีท SKEET
1.2 แทรป TRAP
1.3 ดับเบิ้ลแทรป DOUBLE TRAP การแข่งขันยิงเป้าบิน
ตามมาตรฐานสากลจะกำหนดให้มีการแข่งขันชิง 12 เหรียญ คือ
1. ประเภท สกีท บุคคลชาย
2. ประเภท สกีท บุคคลหญิง
3. ประเภท สกีท ทีมชาย
4. ประเภท สกีท ทีมหญิง
5. ประเภท แทรป บุคคลชาย
6. ประเภท แทรป บุคคลหญิง
7.ประเภท แทรป ทีมชาย
8. ประเภท แทรป ทีมหญิง
9.ประเภท ดับเบิ้ลแทรป บุคคลชาย
10.ประเภท ดับเบิ้ลแทรป บุคคลหญิง
11. ประเภท ดับเบิ้ลแทรป ทีมชาย
12. ประเภท ดับเบิ้ลแทรป ทีมหญิง
ในการยิงเป้าบินประเภทสกีทนั้นนักกีฬาจะทำการยิงเป้าบินทั้งหมด 25 เป้า โดยเป้าจะถูกปล่อยออกจากแท่นปล่อยเป้าซึ่งโดยทั่วไปมักจะเรียกทับศัพท์ว่า House ซึ่งจะมีอยู่ 2 แบบคือ High House ซึ่งจะตั้งอยู่ด้านซ้ายของสนาม และ Low House ตั้งอยู่ด้านขวาของสนาม เป้าจะถูกปล่อยออกจาก House ผ่านหน้าสนามยิง โดยจะมีระยะห่างจากกลางสนามประมาณ 25 หลา เป้าจะถูกตั้งความเร็วและทิศทางไว้เท่ากันทั้งสองด้าน และเป้าจะถูกปล่อยผ่านจุดกลางสนามผ่านไปยังจุดที่กำหนดไว้ด้านข้าง เพื่อเป็นการกำหนดทิศทางและระยะ การยิงสกีทนั้นจะเป็นการยิงที่มีระยะใกล้ที่สุดของการยิงเป้าบินทุกประเภท และ นักกีฬาจะถือปืนไว้ในท่าเตรียมพร้อมและจะประทับปืนได้ต่อเมื่อเป้าได้ถูกปล่อยออกมาแล้วเท่านั้น การปล่อยเป้านั้นจะมีการปล่อย 2 แบบด้วยกันคือ ปล่อยครั้งละ 1 เป้าและปล่อยครั้งละ 2 เป้าพร้อมกัน นักกีฬาจะยิงเป้าโดยใช้กระสุนเป้าละ 1 นัดเท่านั้น และสามารถยิงได้ตั้งแต่เป้าได้ถูกปล่อยออกมาแต่ไม่เกินจุดที่กำหนดไว้ด้านข้างทั้งสองด้าน จึงจะนับเป็นคะแนน
2.กติกาการยิงเป้าบินประเภทสกีทชาย (SKEET MEN)
2.1 นักกีฬา จะต้องเริ่มยิงจากสถานีที่ 1 จนถึง 8 (หมายถึง 1 รอบยิง)
2.2 ใน 1 รอบยิง จะมีเป้าทั้งหมด 25 เป้า
2.3 ใช้กระสุนยิงเป้าละ 1 นัด ไม่สามารถยิงซ้ำได้ ถ้าถูกได้ 1 คะแนน ถ้าผิดได้ 0 คะแนน 2.4 นักกีฬาจะต้องยิงคนละ 5 รอบยิง หรือ 125 นัด (125 คะแนนเต็ม)
2.5 ผู้มีคะแนนรวม 5 รอบสูงสุดตั้งแต่ อันดับ 1 ถึง 6 จะได้เข้าไปยิงในรอบ Final ซึ่งจะยิงอีกคนละ 25 เป้า
2.6 ประเภทบุคคล จะรวมคะแนน 5 รอบ+Final ใครได้คะแนนสูงสุด เป็นผู้ชนะเลิศ
2.7 ประเภททีม จะนับคะแนนรวมเฉพาะ 5 รอบยิงเท่านั้น (1 ทีมจะมีนักกีฬา 3 คน)
3.กติกาการยิงเป้าบินประเภทสกีทหญิง (SKEETWOMEN)
ขั้นตอนการยิงทุกอย่างเหมือนการยิงสกีทชาย ข้อแตกต่างคือนักกีฬาจะยิงคนละ 3 รอบยิง หรือ 75 เป้า (75 คะแนนเต็ม)
ในการยิงเป้าบินประเภทแทรปนั้น นักกีฬาจะยิงเป้าบินทั้งหมด 25 เป้า โดยเป้าจะถูกปล่อยออกจากช่องปล่อยเป้าซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าของแท่นยิง โดยมีระยะห่างระหว่างช่องปล่อยเป้าและแท่นยิงประมาณ 16 หลา แท่นยิงจะมีทั้งหมด 5 แท่น เรียงตามลำดับในแนวเดียวกัน นักกีฬาจะตัองยิงเป้าหนึ่งเป้าจากแต่ละแท่นยิงและเวียนไปจนครบ 5 แท่นยิง จากนั้นก็จะกลับมาเริ่มยิงที่แท่นยิงที่ 1 ใหม่ โดยจะยิงไปจนครบ 5 รอบ หรือเท่ากับจำนวนเป้า 25 เป้า เป้าที่ปล่อยออกจากแต่ละช่องจะถูกดีดออกไปทั้งหมด 3 ทิศด้วยกันคือ ตรงหน้า ด้านซ้าย และด้านขวา โดยนักกีฬาจะไม่ทราบล่วงหน้าว่าแต่ละแท่นยิงนั้นเป้าจะถูกดีดออกไปทางทิศใหน เมื่อเข้าประจำแท่นนักกีฬาสามารถประทับปืนรอพร้อมยิง แล้วจึงทำการเรียกเป้า แต่ละเป้าสามารถยิงได้ 2 นัด ไม่ว่าจะยิงเป้าแตกด้วยกระสุนนัดที่ 1 หรือ 2 ก็จะได้ 1คะแนนเท่ากัน
1. นักกีฬา จะต้องยิงเป้า 1 เป้าจากแต่ละแท่นยิงและเวียนไปจนครบ 5 รอบ
2. ใน 1 รอบยิง จะมีเป้าทั้งหมด 25 เป้า
3. ใช้กระสุนยิงเป้าละ 2 นัด สามารถยิงซ้ำได้ ถ้าถูกได้ 1 คะแนน ถ้าผิดได้ 0 คะแนน
4. นักกีฬาจะต้องยิงคนละ 5 รอบยิง หรือ 125 นัด (125 คะแนนเต็ม)
5. ผู้มีคะแนนรวม 5 รอบสูงสุดตั้งแต่อันดับ 1 ถึง 6 จะได้เข้าไปยิงในรอบ Final ซึ่งจะยิงอีกคนละ 25 เป้า
6. ประเภทบุคคล จะรวมคะแนน 5 รอบ+Final ใครได้คะแนนสูงสุด เป็นผู้ชนะเลิศ
7. ประเภททีม จะนับคะแนนรวมเฉพาะ 5 รอบยิงเท่านั้น (1 ทีมจะมีนักกีฬา 3 คน)
ขั้นตอนการยิงทุกอย่างเหมือนการยิงแทรปชาย ข้อแตกต่างคือนักกีฬาจะยิงคนละ 3 รอบยิง หรือ 75 เป้า (75 คะแนนเต็ม)
ดับเบิ้ลแทรป
การยิงเป้าบินประเภทดับเบิ้ลแทรปเป็นการยิงเป้าบินประเภทเดียวที่ต้องยิงเป้า 2 เป้าพร้อมกัน ในการยิงแต่ละครั้ง โดยเป้าทั้งสองจะถูกปล่อยออกจากช่องปล่อยเป้าซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าของแท่นยิง โดยมีระยะห่างระหว่างช่องปล่อยเป้าและแท่นยิงประมาณ 16 หลา แท่นยิงจะมีทั้งหมด 5 แท่นยิง เรียงตามลำดับในแนวเดียวกัน เป้าที่ปล่อยนั้นจะมีด้วยกัน 3 ทิศทางคือ 0 องศาจากแท่นยิง(8) 5 องศาซ้ายจากแท่นยิง(7) และ 5 องศาขวาจากแท่นยิง(9) การปล่อยเป้าจะถูกกำหนดให้ปล่อยเป็นคู่ มีทั้งหมด 3 ประเภท คือ คู่ซ้ายและตรง(7-8) คู่ตรงและขวา(8-9) และคู่ซ้ายและขวา(7-9)นักกีฬาจะต้องยิงครบทั้ง 3 ประเภท และผู้ที่มีคะแนนสูงสุดจะได้รับการคัดเลือกเข้าไปยิงชุดสุดท้ายเพื่อตัดสินแพ้ชนะ โดยจะยิงคู่ซ้ายและขวา(7-9) อีกครั้งในรอบสุดท้าย นักกีฬาชายจะยิงเป้า 25 คู่ หรือ 50 เป้า ต่อชุด รวม 3 ชุด คือ 150 คะแนน และถ้าเข้ารอบสุดท้ายก็จะยิงอีก 25 คู่เพื่อตัดสิน ส่วนนักกีฬาหญิงจะยิงเป้า 20 คู่ หรือ 40 เป้าต่อชุด รวม 3 ชุด คือ 120 คะแนน และถ้าเข้ารอบสุดท้ายก็จะยิงอีก 20 คู่เพื่อตัดสิน ในการยิงแต่ละชุดนั้นนักกีฬาจะเริ่มยิงที่แท่นยิง1 และเวียนไปจนครบแท่นยิง 5 จึงจะกลับมาเริ่มที่แท่นยิง 1 ใหม่อีกครั้ง เป้าแต่ละเป้าจะใช้กระสุนเพียงนัดเดียว และไม่สามารถยิงซ้ำได้
จะมีลักษณะการยิงคล้ายกับการยิง TRAP ทุกอย่าง โดยมีข้อแตกต่างดังนี้
ขั้นตอนการยิงทุกอย่างเหมือน ดับเบิ้ลแทรปชาย ข้อแตกต่างคือ ใน 1 รอบยิง จะมีจำนวนเป้าที่ต้องยิงเพียงรอบละ 40 เป้าเท่านั้น